วันที่ 4 ธันวาคม 2567 นางสาวมลฤดี สวัสดี เกษตรอำเภอท่าฉาง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอท่าฉาง ลงพื้นที่สำรวจและติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคพืชในพื้นที่ หมู่ที่ 6 ตำบลคลองไทรอำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เบื้องต้นพบโรคใบร่วงของยางพารา ซึ่งในช่วงนี้เป็นฤดูฝน สภาพอากาศมีความชื้นสูงซึ่งเหมาะสมต่อการเจริญของเชื้อราไฟท๊อปธอร่า สาเหตุโรค ใบร่วงของยางพารา โดยอาการใบร่วง ใบยางพาราจะร่วงทั้งที่มีสีเขียวสดและสีเหลือง สีรอยแผลช้ำสีน้ำตาลเข้มถึงดำ บริเวณก้านใบ และที่จุดกึ่งกลางของรอยช้ำมีหยดน้ำยางเกาะติดอยู่ด้วย เมื่อนำใบยางเป็นโรคมาสะบัดไปมาเบา ๆ ใบย่อยจะหลุดทันที ซึ่งต่างจากใบยางที่ร่วงหล่นตามธรรมชาติที่เมื่อนำมาสะบัดไปมาใบย่อยจะไม่ร่วง ในยางพาราใหญ่เมื่อเกิดโรคนี้ใบจะร่วงหมดต้น แต่ไม่ทำให้ต้นยางตาย ผลผลิตยางจะเริ่มลดลง แนวทางการป้องกันกำจัด 1) ไม่ควรปลูกพืชอาศัยของเชื้อราเป็นพืชแซมยาง 2) กำจัดวัชพืชและตัดแต่งกิ่งในสวนยางให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เพื่อลดความชื้นในสวนยาง 3) ในยางที่เปิดกรีดแล้ว ให้ใช้สารเคมี metalaxyl หรือ fosetyl-AI ทาที่หน้ากรีดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกัน โรคเส้นดำ เนื่องจากเกิดจากเชื้อราชนิดเดียวกัน 4) ต้นยางใหญ่ที่เป็นโรคอย่างรุนแรงจนใบร่วงหมดต้น ให้หยุดกรีดและใส่ปุ๋ยบำรุงต้นให้สมบูรณ์
นอกจากนี้ พบอาการผิดปกติของต้นปาล์มน้ำมัน ได้แก่ โรคยอดเน่าปาล์มน้ำมัน อาการที่พบ- เกิดบริเวณโคนยอดที่ยังไม่คลี่ โดยขอบแผลมีลักษณะฉ่ำน้้า ในปาล์มที่มีอายุน้อย จะมีอาการเน่าดำเริ่มจากปลายใบย่อยที่ยังไม่คลี่- แผลเน่าดำจะขยาย ทำให้ใบยอดทั้งใบเน่า/แห้ง เป็นสีน้้าตาลแดง สามารถดึงหลุดออกมาได้ง่าย-ทางยอดหักพับบริเวณกลางทางใบหรือโคนทาง ในช่วงอากาศแล้ง ทางยอดที่ถูกท้าลายจะมีสีเหลืองส้ม ในช่วงหน้าฝน ทางยอดที่ถูกท้าลายจะมีสีเหลืองอ่อน การป้องกัน หากพบแมลงกัดกินยอด ให้ใช้สารคาร์โบฟูแรน อัตรา 50 กรัม/ต้น และตัดส่วนที่เป็นโรคออก แล้วใช้ไทแรมอัตรา 130 กรัม/น้้า 20 ลิตร หรือ แมนโคเซมอัตรา 150 กรัม/น้้า 20 ลิตร ฉีด 5-7 วัน